เคยสงสัยไหมว่า “Tariff” หรือ “ภาษีศุลกากร” ที่ได้ยินบ่อยๆ มันคืออะไรกันแน่? พูดง่ายๆ มันคือ ภาษีที่รัฐบาลเก็บจากสินค้านำเข้า (บางทีก็ส่งออก) เหมือนด่านเก็บเงินที่ชายแดน วัตถุประสงค์ก็มีหลายอย่าง ทั้งหาเงินเข้ารัฐ ปกป้องโรงงานในบ้านเรา หรือแม้แต่ใช้เป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง
แต่ในปี 2025 นี้ “Tariff” ไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจธรรมดาๆ อีกต่อไป เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศนโยบายภาษีชุดใหม่ที่พร้อมจะ “เขย่าโลก” อีกครั้ง ตั้งแต่การจ่อเก็บภาษีสินค้าจีน 34%, เวียดนาม 46%, ไปจนถึงกัมพูชา 49% นี่ไม่ใช่แค่การขึ้นภาษี แต่มันคือ “เกมเดิมพันสูง” ที่ส่งแรงสั่นสะเทือนไปทั่วโลกการค้า และอาจลามไปถึงรากฐานของระบบการเงินโลกอย่าง “ดอลลาร์สหรัฐ” ด้วย!
เปิดศึกภาษี 2025: ใครได้ ใครเสีย ในเกมนี้?
เหมือนสงคราม ที่มีทั้งผู้ชนะและผู้แพ้ ศึกภาษีครั้งนี้ก็เช่นกัน:
-
กลุ่มทุน (บริษัทใหญ่ & นักลงทุน):
- ยิ้มร่า: กลุ่มทุนในอุตสาหกรรมที่ “ได้รับการคุ้มครอง” เช่น ผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐฯ (Ford, GM) หรืออุตสาหกรรมเหล็ก ที่คู่แข่งจากต่างประเทศแพงขึ้นทันตาเห็น หรือกลุ่มทุนที่ปรับตัวไว ย้ายฐานผลิตหนีภาษีได้ทัน
- หน้าสั่น: บริษัทที่ต้องนำเข้าวัตถุดิบหรือสินค้าจากจีน เช่น ค้าปลีกยักษ์ใหญ่ (Walmart) หรือแม้แต่ Apple ที่ต้นทุนพุ่งกระฉูด รวมถึงบริษัทที่เน้นส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ (เช่น Boeing, เกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลือง) ก็อาจเจอการ “เอาคืน” ด้วยกำแพงภาษีจากประเทศอื่น
- นักลงทุน: เจอความผันผวนและความไม่แน่นอน JPMorgan ถึงกับคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจถดถอยในปี 2025!
-
กลุ่ม Elite (ผู้มีอิทธิพล & คนกำหนดนโยบาย):
- ได้แต้มต่อ: กลุ่มที่หนุนนโยบาย “America First” ของทรัมป์ ทั้งนักการเมืองและเจ้าของธุรกิจในประเทศที่ได้ประโยชน์ พวกเขามีเครื่องมือต่อรองบนเวทีโลกที่ทรงพลังขึ้น
- กุมขมับ: กลุ่ม Elite ที่มีผลประโยชน์กับการค้าระหว่างประเทศ นักลงทุนระดับโลก หรือนักการทูตที่ต้องรับมือกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น และความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกจะซบเซา
-
ประชาชนทั่วไปล่ะ?
- ผลกระทบที่ชัดเจนที่สุดคือ “ของแพงขึ้น” นั่นเอง! ตัวอย่างเช่น เครื่องซักผ้าในสหรัฐฯ เคยราคาพุ่งขึ้นถึง 12% หรือราว 3,000 บาทต่อเครื่อง หลังโดนภาษีนำเข้า
ไม่ใช่แค่เรื่องค้าขาย: เมื่อ “ดอลลาร์” เริ่มสั่นคลอน
แรงกระเพื่อมของภาษีทรัมป์ไม่ได้หยุดแค่ท่าเรือหรือชั้นวางสินค้า แต่มันกำลังเร่งกระบวนการที่น่าจับตาอย่าง “De-Dollarization” หรือ การลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐ ในเวทีโลก!
ทำไมล่ะ?
- สงครามการค้า = ความเสี่ยง: เมื่อสหรัฐฯ ใช้ภาษีเป็นอาวุธ ประเทศอื่นๆ ก็เริ่มมองหาทางหนี ไม่อยากฝากชะตาไว้กับดอลลาร์และนโยบายของสหรัฐฯ เพียงอย่างเดียว
- หาทางเลือกใหม่: ประเทศต่างๆ เริ่มหันไปใช้เงินสกุลอื่น (ยูโร, หยวน) หรือแม้แต่ทองคำ ในการค้าขายและเป็นทุนสำรองมากขึ้น สัญญาณเตือนคือ ทุนสำรองในสกุลเงิน G7 (รวมดอลลาร์) ทั่วโลกลดลงถึง 8% หลังสงครามยูเครนและการคว่ำบาตร
- ระบบใหม่เกิด: จีนพัฒนาระบบชำระเงิน CIPS ของตัวเองเพื่อแข่งกับ SWIFT ที่ใช้ดอลลาร์เป็นหลัก
ภาษีของทรัมป์จึงเปรียบเหมือน “เชื้อเพลิง” ที่โหมให้ไฟ De-Dollarization ลุกโชนเร็วขึ้น
ไพ่ลับของทรัมป์? “คริปโต” คือเส้นเงินใหม่ ท้าทายดอลลาร์?
ท่ามกลางความวุ่นวายเรื่องภาษี ทรัมป์ยังมีอีกนโยบายที่น่าจับตาและอาจเป็น “Game Changer” ตัวจริง นั่นคือการ “เทใจให้ Cryptocurrency” อย่างเต็มตัว!
- ไม่ใช่แค่ลมปาก: ทรัมป์ประกาศแผนสร้าง “คลังคริปโตสำรองเชิงยุทธศาสตร์” (Crypto Strategic Reserve) จ่อถือครอง Bitcoin, Ether, XRP, Solana, Cardano ครอบครัวทรัมป์ก็กระโดดเข้าวงการเต็มตัว ทั้งตั้งบริษัทลงทุน ระดมทุนมหาศาล และเอี่ยวบริษัทขุด Bitcoin
- เปิดทางสะดวก: ทรัมป์สั่งปกป้องธนาคารที่ให้บริการบริษัทคริปโต และสั่งห้ามการสร้างเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ในสหรัฐฯ ที่อาจมาแข่งกับคริปโต
คำถามคือ: การดันคริปโตสุดตัวของทรัมป์ จะกลายเป็น “เส้นทางเงินใหม่” ที่เร่งให้โลกทิ้งดอลลาร์เร็วขึ้นหรือไม่?
Larry Fink ซีอีโอ BlackRock ยักษ์ใหญ่ด้านการลงทุนระดับโลก ยังมองว่า “สถานะเงินสำรองของดอลลาร์กำลังตกอยู่ในความเสี่ยง และคริปโตอาจเข้ามาแทนที่” เมื่อแรงกดดันจากภาษีทำให้คนอยากหนีดอลลาร์ และคริปโต (ที่ทรัมป์หนุน) กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากขึ้น กระบวนการ De-Dollarization ก็อาจพุ่งทะยาน!
บทสรุป: โลกการเงินในยุคภาษีเดือดและคริปโตผงาด
นโยบายภาษีของทรัมป์ในปี 2025 ไม่ใช่แค่เรื่องการค้า แต่เป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าเศรษฐกิจและการเงินโลก มันสร้างทั้งผู้ชนะและผู้แพ้ ตั้งแต่โรงงานในดีทรอยต์ไปจนถึงกระเป๋าเงินของเราทุกคน
ขณะเดียวกัน การมาบรรจบกันของกำแพงภาษีและความคลั่งไคล้ในคริปโต กำลังสร้างสมการใหม่ที่ท้าทายอำนาจของดอลลาร์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แม้จะยังมีความไม่แน่นอนสูง และคริปโตเองก็ยังผันผวน แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ โลกการเงินกำลังเปลี่ยนไป และเราทุกคนคือส่วนหนึ่งของความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้
จับตาดูเกมภาษีและเส้นทางของคริปโตให้ดี… อนาคตอาจมาถึงเร็วกว่าที่เราคิด!